สื่ออังกฤษรายงานว่า ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาจอมเก๋าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังจะเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ของ เบิร์นลีย์ ในเร็วๆ นี้ โดยดีลนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของ “เดอะ คลาเร็ตส์” เพื่อเพิ่มโอกาสรอดตกชั้นในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26
วอล์คเกอร์วัย 35 ปี ได้รับการพิจารณาว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และการย้ายทีมครั้งนี้จะเป็นการเปิดฉากบทใหม่ในอาชีพค้าแข้ง พร้อมปิดฉากช่วงเวลาแห่งความสำเร็จกับทีมแชมป์เก่าอย่างแมนฯ ซิตี้
วอล์คเกอร์จ่อเซ็นเบิร์นลีย์ 2 ปี เสริมแกร่งแนวรับ พร้อมบทบาทผู้นำ
รายงานระบุว่า ไคล์ วอล์คเกอร์ จะเซ็นสัญญาระยะเวลา 2 ปี กับ เบิร์นลีย์ โดยการเข้ามาของเขาจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งด้านเกมรับและประสบการณ์ในห้องแต่งตัวให้กับทีมของ สก็อตต์ ปาร์คเกอร์
ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ช่วงปี 2011 ถึง 2013 ซึ่งการกลับมาร่วมงานกันในฐานะโค้ช-ลูกทีมครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการรียูเนียนที่น่าจับตามอง
แม้จะอายุมากขึ้น แต่ วอล์คเกอร์ยังคงมีสปีด ความฟิต และความเป็นผู้นำ ที่สามารถสร้างความแตกต่างในทีมระดับล่างของพรีเมียร์ลีกได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เบิร์นลีย์ต้องการเสถียรภาพแนวรับเพื่อความอยู่รอด
ฟอร์มดรอปในซีซั่นก่อน แต่พร้อมเริ่มใหม่ที่เทิร์ฟมัวร์
หลังจากฤดูกาลที่ไม่สู้ดีนัก วอล์คเกอร์ประสบปัญหาในการแย่งตำแหน่งตัวจริงที่แมนฯ ซิตี้ ทำให้เขาถูกปล่อยยืมตัวไปยัง เอซี มิลาน อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่อิตาลีกลับไม่เป็นไปตามคาด โดยเขามีโอกาสลงสนามจำกัดและไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้
เอซี มิลาน จึงตัดสินใจไม่ใช้เงื่อนไขซื้อขาด ทำให้วอล์คเกอร์ต้องกลับมาอังกฤษ และกลายเป็นเป้าหมายของเบิร์นลีย์ทันที
ดีลนี้ยังถือเป็นการลดภาระค่าเหนื่อยของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ลงได้มากถึง 10 ล้านปอนด์ จากค่าจ้างและโบนัสที่เกี่ยวข้องกับสัญญาของวอล์คเกอร์
แมนฯ ซิตี้วางแผนอนาคต เล็ง “ลิฟราเมนโต้” แทนที่วอล์คเกอร์
ในขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เริ่มเดินหน้าแผนการเสริมทัพเพื่อหาตัวแทนวอล์คเกอร์ในระยะยาว โดยมีชื่อของ ติโน ลิฟราเมนโต้ จาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ
ลิฟราเมนโต้ถือเป็นฟูลแบ็กรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงและเคยโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจกับ “สาลิกาดง” ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเขาอาจเข้ามาแย่งตำแหน่งกับ ริโก้ ลูอิส อีกหนึ่งดาวรุ่งของเรือใบสีฟ้า
อย่างไรก็ตาม การคว้าตัวลิฟราเมนโต้จะไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเจ้าตัวยังมีสัญญายาวกับนิวคาสเซิลจนถึงปี 2028 และต้นสังกัดก็มักไม่ยอมปล่อยผู้เล่นตัวหลักง่ายๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในกรณีของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค
การที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ย้ายร่วมทีมเบิร์นลีย์ นับเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของทั้งสองสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้คลายภาระทางการเงิน และเปิดทางให้ดาวรุ่งก้าวขึ้นมาทดแทน ขณะที่เบิร์นลีย์เองก็ได้ผู้นำที่มีประสบการณ์ระดับสูงเข้ามาประคองทีม
แฟนบอลพรีเมียร์ลีกจึงเตรียมพบกับวอล์คเกอร์ในบทบาทใหม่ ที่แม้จะอยู่กับทีมที่เล็กลง แต่เป้าหมายของเขายังคงชัดเจน — พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในเวทีสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ
อ่านด้วย :