ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติเดนมาร์กของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยถึงความรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวด หลังจากต้องเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในการล่าตาข่ายให้กับทัพปีศาจแดงในฤดูกาลที่ผ่านมา
แม้เจ้าตัวยืนยันว่าเขาไม่เคยหมดความมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง แต่ก็ยอมรับว่าความผิดหวังและความกดดันที่ถาโถมเข้ามา ทำให้จิตใจของเขาเริ่มสั่นคลอน โดยเฉพาะในยามที่ทีมกำลังตกอยู่ในสภาวะฟอร์มต่ำและไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ตามเป้าหมาย
ฮอยลุนด์ย้ายมาจากอตาลันต้าในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ท่ามกลางความคาดหวังสูงจากแฟนบอลที่หวังว่าเขาจะเข้ามาเติมเต็มปัญหาการจบสกอร์ที่เรื้อรังของยูไนเต็ด แต่จนถึงตอนนี้ ดาวยิงวัย 21 ปีรายนี้ยังไม่สามารถแสดงฟอร์มถล่มประตูได้อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ทีมต้องมองหาตัวเลือกในแดนหน้าคนใหม่ โดยได้ดึง โจชัว เซิร์กซี มาร่วมทีม และยังมีข่าวว่าปีศาจแดงเตรียมเดินหน้าเสริมทัพศูนย์หน้าอีกครั้งในตลาดซัมเมอร์ 2025
ฮอยลุนด์เผย! ช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในอาชีพลูกหนัง
จากบทสัมภาษณ์พิเศษกับสื่ออังกฤษอย่าง Mirror ฮอยลุนด์ได้เล่าถึงช่วงเวลาที่ยากที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาเปิดใจว่าการที่ไม่สามารถทำประตูได้หลายเกมติดต่อกันนั้น ไม่เพียงแต่สร้างความผิดหวังให้แฟนบอลเท่านั้น แต่เขาเองก็รู้สึกผิดหวังและเจ็บปวดเช่นกัน
“แน่นอนครับ ผมต้องยอมรับว่าผมผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมามากมาย โดยเฉพาะเมื่อผมไม่สามารถช่วยทีมทำประตูได้หลายเกมติดต่อกัน” ฮอยลุนด์กล่าวอย่างจริงใจ SBOTOP Thailand.
“ผมไม่ถึงขั้นสูญเสียความมั่นใจในตัวเองเสียทีเดียว แต่ผมต้องยอมรับว่าจิตใจผมเริ่มรู้สึกห่อเหี่ยวและผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ใช่แค่แฟนบอลที่รู้สึกแบบนั้น ผมเองในฐานะนักเตะก็มีความรู้สึกเดียวกัน”
ตั้งเป้าเริ่มต้นใหม่ หวังกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม
แม้จะเจอกับความยากลำบากและความกดดันมหาศาล ฮอยลุนด์ยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ และตั้งเป้าที่จะพลิกฟอร์มกลับมาให้ได้ในฤดูกาลหน้า เขาเปิดเผยว่าตนเองได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญจากช่วงเวลานี้ และเตรียมนำสิ่งที่ได้รับมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
“ผมเข้าใจดีว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการโฟกัสไปที่พื้นฐาน กลับไปที่สิ่งที่ผมถนัดและพยายามปรับปรุงมันให้ดียิ่งขึ้น” ฮอยลุนด์เผย
“ผมจะพยายามพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมให้มากขึ้น เข้าใจการเคลื่อนที่และจังหวะของทีมให้ดีขึ้น รวมถึงพยายามหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างโอกาสให้ตัวเอง มันคือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ที่ผมต้องทำให้ถูกต้อง”
เขายังทิ้งท้ายด้วยแง่คิดว่า “ช่วงเวลาที่ยากลำบากนี่แหละ ที่จะทำให้คุณเติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และเรียนรู้ในสิ่งที่คุณอาจมองข้าม ผมพร้อมที่จะสู้และก้าวผ่านมันไปให้ได้”
อ่านด้วย :