อเล็กซานเดอร์ อิซัค ศูนย์หน้าทีมชาติสวีเดน ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ช่วงเริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบ แม้จะย้ายเข้ามาด้วยสถานะ “นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ” ก็ตาม
ปัญหาบาดเจ็บพรากความพร้อมตั้งแต่วันแรก
หลังเซ็นสัญญาย้ายมาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ด้วยค่าตัวสูงถึง 125 ล้านปอนด์ แฟนบอลคาดหวังว่า อิซัค จะกลายเป็นอาวุธสำคัญในแนวรุกของหงส์แดงทันที ทว่าเส้นทางกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะเขาต้องเจอกับปัญหาบาดเจ็บตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมาเมอร์ซีย์ไซด์
การเจรจาที่ยืดเยื้อกับสโมสรเก่าอย่างนิวคาสเซิลทำให้โปรแกรมปรีซีซั่นของเขาถูกขัดจังหวะ ก่อนที่อีก 16 วันต่อมา เขาจึงจะได้ลงสนามประเดิมเกมแรกอย่างเป็นทางการให้ลิเวอร์พูล
อาร์เน่ สลอต เลือกส่งลงสนามอย่างระมัดระวัง
ด้วยสภาพร่างกายที่ยังไม่กลับมาฟิตเต็มร้อย อาร์เน่ สลอต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล จึงเลือกใช้งานอิซัคแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้เจ็บซ้ำ แต่แม้จะวางแผนไว้อย่างระมัดระวัง ศูนย์หน้าวัย 26 ปีก็ยังเจอปัญหาเดิมอีกครั้ง
หลังจากได้ลงตัวจริงสองนัดในช่วงเวลาห่างกันเพียงสี่วัน อิซัคกลับได้รับอาการเจ็บกล้ามเนื้อจนต้องพักยาว และพลาดการลงสนามในสี่เกมหลังสุดของลิเวอร์พูลในทุกรายการ
แม้เขาจะฟิตพอสำหรับมีชื่อบนม้านั่งสำรองในเกมใหญ่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้ลงเล่นช่วงเวลาสั้น ๆ ให้ทีมชาติสวีเดนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทีมแพทย์ยังต้องดูแลสภาพร่างกายของเขาอย่างใกล้ชิด
ตัวเลขไม่สวย — ลง 12 เกม ยิงได้เพียง 1 ประตู
อิซัคยอมรับผ่านสื่อสวีเดน Aftonbladet ว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังห่างไกลจากสิ่งที่เขาตั้งใจไว้
“มันยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผม” อิซัคกล่าวหลังทีมชาติสวีเดนพบกับความพ่ายแพ้อีกครั้ง
ในฤดูกาล 2025/26 เขาลงสนามรวม 12 นัด ทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ แต่ทำได้เพียง 1 ประตู ขณะที่ทีมพบกับความพ่ายแพ้ถึง 8 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่สวยสำหรับนักเตะค่าตัวแพงขนาดนี้
แม้ผลงานจะยังไม่เข้าที่ เขายืนยันว่าไม่เคยใช้ปัญหาบาดเจ็บเป็นข้ออ้าง
“ผมไม่เคยหาข้อแก้ตัว เมื่อได้ลงสนาม ผมแค่ต้องการเล่นให้ดีที่สุด และพยายามช่วยทีมเต็มที่ แม้มันจะยากมากเมื่อคุณต้องนั่งดูทีมเล่นโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย”
ปัญหาเดิมที่ตามหลอกหลอน — ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ็บยาว
กรณีของอิซัคถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะตลอดสามฤดูกาลในพรีเมียร์ลีกกับนิวคาสเซิล เขาเคยพลาดเกมไปมากถึง 38 นัด ซึ่งเทียบเท่ากับการหายไปหนึ่งฤดูกาลเต็ม ๆ
เขายอมรับว่า การเจ็บเรื้อรังส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างมาก
“มันน่าหงุดหงิดเสมอ ไม่ว่าจะเจ็บสั้นหรือเจ็บยาว มันคือสถานการณ์ที่หนักที่สุดสำหรับนักเตะทุกคน”
อย่างไรก็ตาม ดาวยิงสวีเดนยังคงพยายามมองโลกในแง่ดี และใช้ประสบการณ์หลายปีในระดับสูงเป็นบทเรียนในการรับมือกับความท้าทาย
“ฟุตบอลไม่เคยง่าย ยิ่งคุณผ่านช่วงเวลายากลำบากมากขึ้น คุณจะเรียนรู้วิธีรับมือ ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บหรือเรื่องอื่น ๆ คุณต้องเรียนรู้ และกลับมาให้แข็งแกร่งกว่าเดิม”
อ่านด้วย :