เรอัล มาดริด เริ่มต้นศึก ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ได้อย่างไม่น่าประทับใจนัก หลังทำได้เพียงเสมอกับ อัล ฮิลาล ยอดทีมจากซาอุดีอาระเบียด้วยสกอร์ 1-1 ที่สนาม ฮาร์ดร็อก สเตเดียม เมืองไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเกมแรกของกลุ่ม H เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2025 ตามเวลาท้องถิ่น
แม้ว่าราชันชุดขาวจะขึ้นนำก่อนจากประตูของ กอนซาโล การ์เซีย แต่จุดโทษของ รูเบน เนเวส ก็ช่วยให้ทีมจากตะวันออกกลางตีเสมอได้ และที่สำคัญที่สุดคือช่วงท้ายเกม เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ พลาดจุดโทษแบบหวุดหวิดจากการเซฟระดับโลกของ ยาสซีน บูนู ทำให้เรอัล มาดริดพลาดชัยชนะแบบน่าเสียดาย
ครึ่งแรกจืดชืด คุมเกมไม่ได้
ภายใต้การคุมทีมของกุนซือใหม่ ซาบี อลอนโซ่ ฟอร์มของเรอัล มาดริดในครึ่งแรกถือว่าน่าผิดหวัง พวกเขาคุมเกมไม่ได้ จังหวะการเล่นขาดความต่อเนื่อง และมีความผิดพลาดในการจ่ายบอลหลายครั้ง ทำให้ถูกกดดันจากทีมอัล ฮิลาลอยู่เป็นระยะ
อลอนโซ่ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า
“ผมไม่พอใจฟอร์มของเราช่วงครึ่งแรกเลย เราเร่งเกมเร็วเกินไปและเสียบอลบ่อย เราต้องหาความสมดุลให้ได้มากกว่านี้”
ในขณะที่ผู้รักษาประตู ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก็เสริมว่า
“เราช้าเกินไปในช่วงต้นเกม พวกเขาคุมจังหวะได้ดีกว่า แม้ว่าเราจะขึ้นนำก่อน แต่พวกเขาก็ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของเราและได้จุดโทษตีเสมอ”
ครึ่งหลังดีขึ้น แต่ไม่พอ
ครึ่งหลัง เรอัล มาดริดกลับมาเล่นได้ดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน การครองบอลแน่นขึ้น เกมรุกหลากหลายขึ้น แต่ยังขาดความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย แม้จะมีโอกาสหลายครั้ง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูชัยได้
อลอนโซ่ยอมรับว่า
“เราคุมเกมได้ในครึ่งหลัง และใกล้เคียงกับชัยชนะ แต่จังหวะที่เราพลาดจุดโทษก็เป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอล เราต้องเรียนรู้จากมัน”
กูร์กตัวส์กล่าวอย่างมีความหวังว่า
“เราดูดีขึ้นในครึ่งหลัง และถ้าเราสานต่อฟอร์มนี้ได้ ผมเชื่อว่าเราจะชนะในเกมถัดไปแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม ความหวังที่เกือบเป็นจริงนั้นต้องจบลงเพราะเซฟระดับโลกจากยาสซีน บูนู ซึ่งพุ่งปัดลูกยิงของบัลเบร์เด้อย่างแม่นยำในนาทีที่ 92 ทำให้มาดริดต้องแบ่งแต้มไปแบบน่าเจ็บใจ
อัล ฮิลาล – ตัวแทนจากทะเลทรายที่ไม่ธรรมดา
หากคิดว่าอัล ฮิลาลมาเพื่อเป็นทีมประกอบในกลุ่มนี้ คงต้องคิดใหม่ เพราะลูกทีมของ ซิโมเน อินซากี้ แสดงให้เห็นถึงวินัย การจัดระเบียบเกม และความกล้าหาญในการต่อกรกับทีมระดับโลก
ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี กองหน้าตัวเก๋าของทีมให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า
“เราไม่ได้มาแค่เพื่อเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ เรามาที่นี่เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าฟุตบอลซาอุดีอาระเบียพัฒนาไปถึงระดับใด และเราภูมิใจที่สามารถแบ่งแต้มจากทีมระดับโลกอย่างเรอัล มาดริดได้”
เขาเสริมด้วยว่า
“เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน คือการผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ และผลเสมอในวันนี้คือก้าวแรกที่สำคัญสำหรับพวกเรา”
มาดริดยังไม่ฟูลฟอร์ม – อัล ฮิลาลพิสูจน์ว่าเอเชียก็สู้ได้
เกมนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเรอัล มาดริด ว่าการแข่งขันระดับโลกไม่อาจประมาทได้แม้แต่ทีมจากลีกเอเชีย ขณะที่อัล ฮิลาลพิสูจน์ว่า “ฟุตบอลจากตะวันออกกลาง” กำลังกลายเป็นพลังใหม่ที่โลกต้องจับตามอง
ราชันชุดขาวยังมีเวลาในการแก้ตัว และพวกเขาจะต้องเร่งเครื่องให้ไวที่สุด หากยังต้องการลุ้นถ้วยแชมป์ในรายการนี้ ส่วนทางด้านอัล ฮิลาล—นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ในเวทีระดับโลก
อ่านด้วย :