หนึ่งในเรื่องราวที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในวันปิดตลาดซื้อขายนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการคว้าตัว เซเน ลัมเมนส์ (Senne Lammens) ผู้รักษาประตูชาวเบลเยียมวัย 23 ปีที่ย้ายมาจากรอยัล อันท์เวิร์ปด้วยค่าตัว 18.1 ล้านปอนด์
แม้จะมีข่าวเชื่อมโยงกับ “ปีศาจแดง” มาตั้งแต่ช่วงต้นตลาด แต่การย้ายทีมเพิ่งได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการหลังตลาดปิดไปแล้วถึง 5 ชั่วโมง โดยเกิดขึ้นหลังจากความหวังดึง เอมิเลียโน มาร์ติเนซ มายังโอลด์ แทรฟฟอร์ดล้มเหลวไป
สำหรับลัมเมนส์ นี่ถือเป็นการทำตามความฝันและเป็นก้าวแรกของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตค้าแข้ง
3 สัปดาห์แห่งการรอคอย
แม้จะเปิดตัวเป็นนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดมานานกว่า 3 สัปดาห์ แต่จนถึงตอนนี้ ลัมเมนส์ยังไม่ได้รับโอกาสประเดิมสนามอย่างเป็นทางการ
ยังไม่มีความชัดเจนว่ากุนซือ รูเบน อามอริม จะมอบโอกาสครั้งแรกให้เขาในเกมบุกไปเยือนเบรนท์ฟอร์ด เกมเหย้ากับซันเดอร์แลนด์ (4 ตุลาคม) หรืออาจต้องรอต่อไปอีก
อย่างไรก็ตาม ภายในทีมมีเสียงยืนยันว่า ลัมเมนส์ปรับตัวได้อย่างยอดเยี่ยมในการซ้อม ทั้งความนิ่ง ความเป็นผู้ใหญ่ และความมั่นใจที่เขาแสดงออกมา ทำให้เพื่อนร่วมทีมหลายคนประทับใจทันที เขายังได้ย้ายออกจากโรงแรมมาอยู่ในที่พักถาวรแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่อย่างจริงจัง
ทอม ฮีตัน นายทวารจอมเก๋าของยูไนเต็ด ถึงกับเอ่ยปากในพอดแคสต์ว่า
“เขามีบุคลิกที่แข็งแกร่งมาก และพื้นฐานการเป็นผู้รักษาประตูของเขาน่าประทับใจสุด ๆ ผมบอกเขาตั้งแต่วันแรกว่า เขาทำให้ผมทึ่งจริง ๆ”
การลงทุนเพื่ออนาคต
ยูไนเต็ดชัดเจนว่าการเซ็นสัญญากับลัมเมนส์ไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เป็นการมองไปข้างหน้าในระยะยาว
ผลงานของเขาในเบลเยียมฤดูกาลก่อนพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพสูงสุด เขาลงสนาม 30 นัด เก็บได้ 7 คลีนชีต และทำไป 173 เซฟ ซึ่งมากกว่าผู้รักษาประตูใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปรวมกัน นอกจากนี้ยังเซฟจุดโทษได้ถึง 4 ครั้ง ถือเป็นสถิติที่โดดเด่นอย่างยิ่ง
ข้อมูลจาก Opta ชี้ว่าเขามีอัตราการเซฟสูงถึง 77.4% และความแม่นยำในการจ่ายบอล 71.5% พร้อมค่า Goals Prevented ที่ 18.4 ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่มีประสิทธิภาพที่สุดในรุ่นเดียวกัน
โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ อดีตกองหลังทีมชาติเบลเยียมกล่าวถึงรุ่นน้องว่า
“เซเนยังหนุ่ม ร่างกายสูงใหญ่ และสไตล์การเล่นเข้ากับฟุตบอลอังกฤษแน่นอน”
แม้จะได้รับคำชมมากมาย แต่ด้วยประสบการณ์ในฐานะมือหนึ่งเพียงแค่ฤดูกาลเดียว (57 นัดในระดับอาชีพ) ทำให้อามอริมเลือกที่จะไม่เร่งรีบ เขายังคงวางใจให้ อัลไต บายินเดียร์ ลงสนามต่อไป แม้จะมีฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอ
ฟอร์มที่ไม่น่าไว้ใจของบายินเดียร์
บายินเดียร์ได้ลงเล่น 6 จาก 7 นัดพรีเมียร์ลีก แต่สถิติกลับไม่น่าประทับใจ เขามีเปอร์เซ็นต์เซฟเพียง 50% อยู่เพียงอันดับ 16 ของลีก และทำพลาดในจังหวะสำคัญหลายครั้ง รวมถึงเกมกับอาร์เซนอลและเบิร์นลีย์
เขาถูกยิงไปแล้ว 8 ประตู มากกว่าค่าคาดการณ์ (7.14 xGA) ขณะที่การจ่ายบอลสั้นและยาวก็อยู่ในอันดับท้าย ๆ ของพรีเมียร์ลีก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เกิดคำถามว่า อีกไม่นานลัมเมนส์อาจได้รับโอกาสขึ้นมาแทน
ความอดทนคือกุญแจสำคัญ
อดีตผู้รักษาประตูยูไนเต็ดอย่าง รอย แคร์รอลล์ ออกมาเตือนว่าแฟน ๆ ไม่ควรคาดหวังเร็วเกินไป
“เขาเพิ่งอายุ 23 ปี ต้องให้เวลาเขาเหมือนที่เราเคยให้กับดาบิด เด เคอา เขาก็เคยผิดพลาดในวัยเดียวกัน แต่สุดท้ายกลายเป็นตำนานของสโมสร”
คำถามสำคัญในตอนนี้จึงไม่ใช่ว่า ลัมเมนส์จะได้โอกาสหรือไม่ แต่เป็นว่า เมื่อไหร่ อามอริมจะกล้าเปิดเวทีพรีเมียร์ลีกให้ผู้รักษาประตูหนุ่มรายนี้ได้โชว์ศักยภาพเต็มที่
การมาของเซเน ลัมเมนส์ถือเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ระยะยาวที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตั้งใจลงทุน ความสามารถในการเซฟ ลูกนิ่ง และความมั่นใจในสนาม ล้วนทำให้เขาถูกมองว่าเป็น “อนาคตของปีศาจแดง”
แม้แฟนบอลยังต้องรอเดบิวต์แรก แต่ด้วยศักยภาพและตัวเลขสถิติที่น่าทึ่ง คงไม่นานก่อนที่ชื่อของลัมเมนส์จะถูกจารึกในพรีเมียร์ลีก
อ่านด้วย :