จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ได้สัมผัสกับอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในอาชีพค้าแข้งของเขากับ เรอัล มาดริด ด้วยการลงสนามครบ 100 นัด ในนัดสำคัญพบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) ในรอบรองชนะเลิศของศึก ฟุตบอลสโมสรโลก 2025 ที่จัดขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะเป็นค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลอง กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดและน่าผิดหวัง เมื่อ ราชันชุดขาวพ่ายแพ้แบบหมดรูป 0-4 ต่อ PSG และตกรอบไปอย่างไม่มีลุ้น
เบลลิงแฮมลงตัวจริง แต่มาดริดต้านไม่ไหว
ในเกมที่จัดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม (ตามเวลาไทย) ณ สนาม MetLife Stadium ประเทศสหรัฐอเมริกา เบลลิงแฮมได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงและรับบทบาทสำคัญในการคุมเกมแดนกลางให้กับมาดริด
แต่ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงและการประสานงานที่ไร้ที่ติของ PSG โดยเฉพาะในช่วง 25 นาทีแรก ทำให้เกมรับของทีมจากสเปนพังทลายลงอย่างรวดเร็ว
PSG ถล่มยับ – ทำลายค่ำคืนแห่งเกียรติยศของเบลลิงแฮม
- นาทีที่ 8: ฟาเบียน รูอิซ ซัดประตูแรกให้ PSG
- นาทีที่ 22: รูอิซซัดเบิ้ลทำให้สกอร์ขยับเป็น 2-0
- นาทีที่ 24: อุสมาน เดมเบเล่ เติมอีกลูกให้เปแอสเชหนีห่าง 3-0
- นาทีที่ 87: กอนซาโล่ รามอส ปิดฉากด้วยลูกที่ 4 อย่างเฉียบขาด
มาดริดไม่สามารถตั้งเกมได้เลยตลอดทั้งแมตช์ และแม้เบลลิงแฮมจะพยายามลากบอลและเชื่อมเกมเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถพาทีมกลับสู่เกมได้ในคืนนี้
100 นัดกับเรอัล มาดริด: 5 แชมป์ & บทบาทสำคัญในความสำเร็จ
ตั้งแต่ย้ายจากดอร์ทมุนด์มาในปี 2023 เบลลิงแฮมกลายเป็นหนึ่งในแกนหลักของเรอัล มาดริดอย่างรวดเร็ว เขามีส่วนสำคัญในการคว้า ทริปเปิลแชมป์ ในฤดูกาลแรก (ลา ลีกา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, และสแปนิช ซูเปอร์คัพ)
ในฤดูกาลถัดมา เขายังพาทีมคว้าเพิ่มอีก 2 แชมป์ ได้แก่ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ พร้อมกับได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในนัดชิงชนะเลิศของหนึ่งในถ้วยดังกล่าว
สถิติลงสนาม:
- ลา ลีกา: 59 นัด
- ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก: 24 นัด
- โกปา เดล เรย์: 5 นัด
- สโมสรโลก: 6 นัด
- รายการอื่น ๆ: 6 นัด
เบลลิงแฮมยังคงเป็นอนาคตของทีมแม้ค่ำคืนจะจบลงอย่างเจ็บปวด
ใน 100 นัดที่ลงเล่น เขาช่วยให้มาดริดเก็บชัยชนะได้ถึง 67 นัด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงผลกระทบเชิงบวกที่เขามีต่อทีม
- ฤดูกาลแรก: ยิงได้ 23 ประตูจาก 42 นัด
- ฤดูกาลที่สอง (ถึงปัจจุบัน): ยิงไป 15 ประตูจาก 58 นัด
แม้ในเกมที่ 100 นี้เขาจะไม่ได้มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ จู๊ด เบลลิงแฮมยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและอนาคตของเรอัล มาดริด โดยเฉพาะภายใต้การคุมทีมของ ชาบี อลอนโซ่ ที่ยังเชื่อมั่นในฝีเท้าของเจ้าหนูวัย 22 ปีรายนี้
ตอนนี้ความหวังเดียวของเบลลิงแฮมคือการลุกขึ้นยืนให้ได้จากความพ่ายแพ้ และพยายามปิดฤดูกาลด้วยผลงานที่แข็งแกร่งในลีกและรายการอื่นที่ยังเหลือ
อ่านด้วย :