การแต่งตั้ง ชาบี อลอนโซ่ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมเรอัล มาดริดไม่ใช่แค่การเลือกที่ดูสมเหตุสมผลเท่านั้น แต่ยังมีความหมายลึกซึ้งในเชิงอารมณ์และประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย อลอนโซ่ในวัย 43 ปี กลับคืนสู่บ้านหลังเก่าที่เขาเคยทุ่มเทแรงกายแรงใจในฐานะนักเตะ และตอนนี้เขากำลังเริ่มต้นภารกิจใหม่ในบทบาทของผู้จัดการทีม
อลอนโซ่: อดีตกองกลางผู้เป็นตำนานในเบร์นาเบว
อลอนโซ่ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับแฟนบอลราชันชุดขาว เขาคืออดีตกองกลางตัวเก่งที่ลงเล่นให้กับเรอัล มาดริดระหว่างปี 2009 ถึง 2014 รวมทั้งสิ้น 236 นัด และมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, ลาลีกา และโกปา เดล เรย์อีก 2 สมัย
การกลับมาครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเติมเต็มเส้นทางชีวิตที่เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่นระหว่างอลอนโซ่กับเรอัล มาดริด
เส้นทางนักเตะกาลาคติกอสที่กลายเป็นกุนซืออนาคตไกล
ในปี 2009 เรอัล มาดริดภายใต้การนำของฟลอเรนติโน่ เปเรซ ได้เริ่มโปรเจกต์กาลาคติกอสภาคสอง ด้วยการดึงสตาร์ชื่อดังเข้าทีม ทั้งคริสเตียโน่ โรนัลโด้, กาก้า, คาริม เบนเซม่า และอลอนโซ่ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้นด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโรจากลิเวอร์พูล
ในยุคของโชเซ่ มูรินโญ่ อลอนโซ่คือแกนกลางที่คอยคุมจังหวะเกมและช่วยให้มาดริดยุติความยิ่งใหญ่ของบาร์เซโลน่าในฤดูกาล 2011/12 ด้วยการคว้าแชมป์ลาลีกาโดยทำได้ถึง 100 คะแนนและยิงได้ 121 ประตู
แม้ในช่วงที่ห้องแต่งตัวของทีมเกิดปัญหาและความขัดแย้ง อลอนโซ่ยังคงยืนหยัดเป็นผู้ภักดีต่อมูรินโญ่อย่างเหนียวแน่น ซึ่งต่างจากผู้เล่นรายอื่น ๆ อย่างเซร์คิโอ รามอส หรือ อีเคร์ กาซียาส
จากยุคมูรินโญ่สู่ยุคอันเชล็อตติ: เส้นทางสู่ “ลา เดซิม่า”
การมาถึงของคาร์โล อันเชล็อตติ เปลี่ยนบรรยากาศของเรอัล มาดริดให้สงบขึ้น พร้อมรวมพลังนักเตะให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง และอลอนโซ่ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม
ฤดูกาล 2013/14 คือหนึ่งในฤดูกาลประวัติศาสตร์ เมื่อมาดริดคว้า “ลา เดซิม่า” หรือแชมป์ยุโรปสมัยที่ 10 แม้อลอนโซ่จะพลาดลงเล่นในรอบชิงฯ เพราะติดโทษแบน แต่การมีส่วนร่วมของเขาตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์นั้นชัดเจนและยิ่งใหญ่
ภาพของอลอนโซ่ในชุดสูทวิ่งลงข้างสนามเพื่อฉลองประตูกับเพื่อนร่วมทีมกลายเป็นภาพที่น่าประทับใจจนถึงทุกวันนี้
จุดเริ่มต้นของเส้นทางกุนซือ: จากลาฟาบริก้าสู่เลเวอร์คูเซ่น
หลังแขวนสตั๊ดในปี 2017 อลอนโซ่กลับมาสู่เรอัล มาดริดในบทบาทใหม่—โค้ชทีมเยาวชน U-14 (อินฟานทิล A) ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง พาทีมชนะถึง 22 จาก 23 เกมแรก และคว้าแชมป์ลีกอย่างสบาย
แม้จะมีโอกาสก้าวขึ้นไปคุมทีมระดับเยาวชนชุดใหญ่ของมาดริด แต่อลอนโซ่เลือกเส้นทางที่ท้าทายกว่า ด้วยการกลับไปคุมทีม B ของเรอัล โซเซียดัด ซึ่งถือเป็นการวางแผนชีวิตโค้ชอย่างรอบคอบ
เขานำทีมด้วยทีมงานที่ไว้วางใจ ทั้งพี่ชายมิเกล อลอนโซ่ และมือขวาคู่ใจ เซบาสเตียน ปาร์ริลลา
สร้างตำนานบทใหม่กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ในเดือนตุลาคม 2022 อลอนโซ่ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในการคุมทีมไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งถูกมองว่าเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งโค้ช” ของวงการฟุตบอลเยอรมัน
ฤดูกาล 2023/24 เขาสร้างความอัศจรรย์ ด้วยการพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ (บุนเดสลีกา และ เดเอฟเบ โพคาล) โดยไม่แพ้ใครเลยตลอดซีซั่น และยังพาทีมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศยูโรป้าลีก
ความสำเร็จนี้ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นลิเวอร์พูล, บาเยิร์น มิวนิค หรือแม้แต่ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
แต่อลอนโซ่เลือกอดทนรอจังหวะที่เหมาะสม เพราะเขารู้ดีว่าโอกาสในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบวอาจมาถึงในอนาคตอันใกล้ และเขาต้องพร้อมที่สุดสำหรับมัน
สายใยที่ไม่เคยขาดจากเรอัล มาดริด
แม้จะจากสโมสรไปนานหลายปี แต่อลอนโซ่ไม่เคยตัดขาดจากเรอัล มาดริด ไม่ว่าจะในฐานะอดีตผู้เล่นหรือคนของสโมสร
แม้มีความขัดแย้งกับเพื่อนเก่าบางราย เช่น กาซียาส จากคำพูดในอดีต แต่อิทธิพลของอลอนโซ่ในหมู่ผู้บริหารมาดริดยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกับฟลอเรนติโน่ เปเรซ ที่ชื่นชมในความภักดีของเขา
อลอนโซ่ยังร่วมงานกับเอเจนซี่ “Best of You” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามสนามเบร์นาเบว และเป็นเอเจนซี่เดียวกันกับที่ดูแลบุคลากรหลายคนของมาดริด
ยุคใหม่ของเรอัล มาดริดอาจเริ่มต้นจากชายชื่อ ชาบี อลอนโซ่
การแต่งตั้งชาบี อลอนโซ่คือการผสานระหว่างความทรงจำเก่าและอนาคตที่สดใส ด้วยประสบการณ์ในฐานะผู้เล่นระดับตำนาน และความสำเร็จในฐานะโค้ชดาวรุ่ง อลอนโซ่พร้อมแล้วที่จะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับราชันชุดขาวอีกครั้ง
อ่านด้วย :