ลิเวอร์พูลกำลังเผชิญช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วงที่สุดในรอบหลายปี หลังปราชัยไปถึง 9 จาก 12 นัดล่าสุด—ตัวเลขที่ต่างกันลิบลับจากฟอร์มแข็งแกร่งเมื่อฤดูกาลก่อน สถานการณ์นี้ทำให้แรงกดดันถาโถมไปยัง อาร์เน่ สลอต อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เขาเพิ่งพา “หงส์แดง” ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเท่านั้น
ทุ่มมหาศาลกว่า 400 ล้านปอนด์ แต่ฟอร์มกลับดิ่งลง
สิ่งที่ทำให้แฟนบอลสับสนไปมากกว่าเดิม คือเม็ดเงินมหาศาลที่สโมสรทุ่มไปในการเสริมทัพ ลิเวอร์พูลลงทุนเกิน 400 ล้านปอนด์ เพื่อดึงนักเตะใหม่เข้ามาเสริมแกร่ง แต่ผลงานที่ปรากฏกลับไม่เป็นไปตามความคาดหวังแทบทุกด้าน
แทนที่แฟนบอลจะได้เห็นทีมที่สดใหม่ กระหายชัยชนะ และมีจังหวะแบบผู้ล่าแชมป์ การเล่นของทีมกลับดูเนือย เหนื่อย และไร้ความดุดันที่เคยมี
หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงแนวทางการทำทีมของสลอต รวมถึงอนาคตของเขา ว่ายังพอจะนำลิเวอร์พูลกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้หรือไม่
แฟนบอลบางส่วนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่บอร์ดยังไม่หวั่นไหว
กระแสให้เปลี่ยนกุนซือเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนบอลที่มองว่าทีมกำลังดิ่งลงแบบน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม รายงานของ Mirror Football ระบุว่า ฝ่ายบริหารของลิเวอร์พูลยังไม่พิจารณาปลดสลอตในเร็ว ๆ นี้
บอร์ดยังคงเชื่อว่า สถานการณ์สามารถพลิกกลับได้ หากทีมได้รับเวลาและความต่อเนื่องที่เพียงพอ
แต่แม้สโมสรยังให้โอกาส สลอตก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงได้เลยว่า เงาของการเปลี่ยนกุนซือยังคงตามหลอกหลอนทุกย่างก้าว
ชื่อ “ซีเนดีน ซีดาน” โผล่ขึ้นเด่นท่ามกลางกระแสเรียกร้อง
ในบรรดาโค้ชที่ถูกพูดถึงมากที่สุด หนึ่งในนั้นคือ ซีเนดีน ซีดาน อดีตกุนซือเรอัล มาดริด ผู้สร้างประวัติศาสตร์พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน รวมถึงแชมป์ลาลีกา 2 สมัย
แม้หลายคนมองว่าความสำเร็จของเขามาจากการบริหารซูเปอร์สตาร์มากกว่าความลึกซึ้งด้านแท็กติก แต่เสียงวิจารณ์นั้นไม่ใช่สิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตำนานลิเวอร์พูลเห็นด้วย
คล็อปป์เคยปกป้องฝีมือของซีดานก่อนนัดชิง UCL 2018
ก่อนเกมชิงแชมเปียนส์ลีกปี 2018 ระหว่างลิเวอร์พูลกับเรอัล มาดริด คล็อปป์เคยออกโรงยกย่องซีดานอย่างชัดเจน
“หลายคนบอกว่า ซีดานไม่เก่งแท็กติก และคนกลุ่มเดียวกันก็คิดแบบนั้นกับผม—มันตลกมาก
โค้ชสองคนที่พาทีมถึงรอบชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกลับโดนมองว่าไม่เข้าใจแท็กติก… ถ้าอย่างนั้นฟุตบอลมันยังมีความหมายอะไรเหลืออีก?”
เขายังกล่าวเสริมว่า
“ซีดานเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล และเขาคว้าแชมเปียนส์ลีกสามครั้งในช่วงที่ผมคุมลิเวอร์พูลนานกว่าเขาคุมมาดริดเสียอีก
ทีมของเขาเล่นกันอย่างเป็นระบบ รู้จังหวะคุมเกม และรู้จังหวะเล่นแบบรวดเร็ว—เหมือนนาฬิกาสวิสที่เดินไม่มีพลาด”
คำชื่นชมนี้ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของซีดานแข็งแกร่งขึ้น และกลายเป็นตัวเลือกที่ถูกพูดถึงมากขึ้นทุกที ในช่วงที่ลิเวอร์พูลกำลังมองหาทางออกจากวิกฤต
ซีดานกำลังรอทีมชาติฝรั่งเศส แต่ไม่ปิดโอกาสพรีเมียร์ลีก
แม้ซีดานจะไม่ได้รับงานคุมทีมใดเลยนับตั้งแต่อำลามาดริดในปี 2021 แต่มีรายงานว่าเขากำลังรอโอกาสคุมทีมชาติฝรั่งเศส หาก ดิดิเยร์ เดชองส์ ตัดสินใจลงจากตำแหน่งหลังฟุตบอลโลกครั้งหน้า
อย่างไรก็ตาม ซีดานไม่เคยปิดประตูสู่พรีเมียร์ลีก เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ L’Equipe ในปี 2022 ว่า:
“อย่าพูดว่าไม่มีทาง ในโลกฟุตบอลไม่มีอะไรแน่นอน
ถ้าผมกลับมาคุมสโมสร เป้าหมายเดียวคือชัยชนะ—ผมเป็นคนที่รักความท้าทาย”
คำพูดนี้ยังคงดังอยู่ในหัวของแฟนบอลหลายคน เมื่อชื่อเขากลับมาติดโผกุนซือใหม่ของลิเวอร์พูลอีกครั้ง
อนาคตลิเวอร์พูลอยู่บนเส้นบางเฉียบ
ด้วยแรงกดดันที่ถาโถมและฟอร์มการเล่นที่ยังหาทางฟื้นไม่เจอ การตัดสินใจของบอร์ดบริหารในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าจะส่งผลสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางสโมสร
ไม่ว่าจะเลือกเดินหน้าต่อกับสลอต หรือหันไปหาโค้ชใหม่อย่างซีดาน—หรือชื่ออื่น ๆ—สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ลิเวอร์พูลจะต้องคิดอย่างรอบคอบ เพราะนี่คือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่อาจกำหนดอนาคตของทีมในระยะยาว
หาก “หงส์แดง” ต้องการกลับสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ พวกเขาจำเป็นต้องหาคำตอบให้เจอโดยเร็วที่สุด
อ่านด้วย :