แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์หลับแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังปรับแผนการสร้างทีมใหม่ โดยตั้งเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้มากขึ้นสำหรับฤดูกาล 2025/2026 ด้วยการวางเป้าหมายเบื้องต้นเพียงแค่ทะลุเข้าสู่ 6 อันดับแรกของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาต้องเผชิญกับฤดูกาล 2024/2025 ที่น่าผิดหวังและถือเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรยุคพรีเมียร์ลีก
จนถึงขณะนี้ ทีมปีศาจแดงสามารถเก็บได้เพียง 39 คะแนนจากการลงเล่น 36 นัด และรั้งอันดับที่ 16 ของตารางคะแนนแบบน่าใจหาย โดยมีเพียงแต้มเดียวเหนือท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งตอนนี้ก็ตกต่ำอย่างหนักและรั้งอันดับที่ 17 อยู่ในขอบเขตพื้นที่ตกชั้นแบบเฉียดฉิว สถานการณ์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เวลานี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด และเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน
บอร์ดบริหารยังคงไว้ใจ อามอริม แม้ฟอร์มตกต่ำสุดขีด
แม้ผลงานในลีกจะย่ำแย่เกินคาด แต่บอร์ดบริหารแมนยูฯ ยังคงเชื่อมั่นในตัว รูเบน อามอริม กุนซือชาวโปรตุเกส ที่เข้ามารับงานต่อจาก เอริก เทน ฮาก กลางฤดูกาล อามอริมจะมีโอกาสครั้งสำคัญในการกู้ศรัทธาแฟนบอลและบอร์ดบริหารอีกครั้ง เมื่อพวกเขาต้องลงเล่นนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า ยูโรปาลีก กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ปีศาจแดงจะได้รับตั๋วลุยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อัตโนมัติสำหรับฤดูกาลหน้า
แต่แม้จะมีโอกาสได้ลุ้นถ้วยยุโรป ผลงานในพรีเมียร์ลีกก็ยังคงเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ฤดูกาลนี้ ยูไนเต็ดแพ้ไปถึง 17 นัดในลีก โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่พวกเขาพ่ายคาบ้านต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2 และหากไม่ใช่เพราะผลงานที่แย่พอๆ กันของทีมอย่าง อิปสวิช, เลสเตอร์ และ เซาแธมป์ตัน อาจทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องดิ้นรนในโซนตกชั้นไปแล้ว
ปีศาจแดงลั่นเป้าหมายใหม่ หวังจบท็อป 6 พร้อมเสริมทัพครั้งใหญ่
ตามรายงานจาก Manchester Evening News อามอริม ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารระดับสูงให้พาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบอย่างน้อยอันดับที่ 6 ในฤดูกาลหน้า เป้าหมายนี้ถูกมองว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันของทีม ที่ต้องการเวลาสำหรับการฟื้นฟูและปรับปรุงโครงสร้างทีม รวมถึงการเสริมแกร่งในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้
แม้ฟอร์มในลีกจะน่าผิดหวัง แต่มันยังไม่ส่งผลกระทบต่อแผนระยะยาวของสโมสรโดยตรง บอร์ดบริหารมองว่า อามอริม ควรได้รับโอกาสเต็มที่ในการสร้างทีมใหม่ในระยะยาว แม้ว่าผลงานในพรีเมียร์ลีกของเขาจะเก็บชัยชนะได้เพียง 6 จาก 25 นัดก็ตาม โดยผลงานในยูโรปาลีกยังคงช่วยให้เขาได้รับความไว้วางใจจากสโมสรต่อไป
หากยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ยูโรปาลีกได้สำเร็จ ก็จะช่วยประคับประคองสถานการณ์ปัจจุบันให้ดูไม่เลวร้ายจนเกินไป และเป็นแรงกระตุ้นสำคัญสำหรับการสร้างทีมในฤดูกาลถัดไป ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด คงต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลในการพาทีมกลับไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จที่แฟนบอลเฝ้ารอคอยมานานหลายปี
อ่านด้วย :
