• BTC$89,150.54
    2.31%
  • ETH$2,969.43
    1.42%
  • USDT$1.00
    0.00%
  • BNB$865.50
    -0.56%
  • XRP$1.95
    1.18%
  • USDC$1.00
    0.01%
  • SOL$129.67
    1.30%
  • TRX$0.28
    0.12%
  • STETH$2,968.89
    1.42%
  • DOGE$0.13
    1.40%
  • ADA$0.39
    1.14%
  • WSTETH$3,628.19
    1.43%
  • BCH$564.15
    3.33%
  • WBTC$88,954.81
    2.30%
  • WETH$2,981.31
    1.69%

SBOTOP: อาร์เน่ สลอต กับลิเวอร์พูล: ก้าวต่อไปของทีมจะมุ่งหน้าไปทางใด?

ลิเวอร์พูลในตอนนี้ดูเหมือนทีมที่ “หมดใจ” อย่างแท้จริง
ทุกครั้งที่แฟนบอลคิดว่าสถานการณ์ของทีมคงไม่อาจเลวร้ายไปกว่ลิเวอร์พูลานี้… พวกเขากลับพบวิธีดิ่งลงไปอีกระดับอย่างน่าตกใจ

นี่ไม่ใช่แค่ช่วงฟอร์มตกชั่วคราว
ไม่ใช่เพียงปัญหาที่จะคลี่คลายด้วยเวลา
แต่มันคือความจริงหนักหนาที่สโมสรต้องเผชิญ และยิ่งเล่น ความหวังก็ยิ่งหายไปทีละนัด

อาร์เน่ สลอต ยืนมองทีมของตัวเองพังทลายต่อหน้าอีกครั้ง
ความปราชัย 1-4 ต่อพีเอสวีเกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 5 วันหลังจากที่ลิเวอร์พูลถูกน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ย้ำแค้น 0-3

นี่คือครั้งแรกตั้งแต่เดือนกันยายนปี 1992 ที่ลิเวอร์พูลเสียประตูตั้งแต่ 3 ลูกขึ้นไปติดต่อกัน 3 นัดในทุกรายการ
และยังเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1953 ที่พวกเขาแพ้ด้วยผลต่าง 3 ลูกแบบนี้ถึง 3 เกมรวด

ขณะที่เกมกำลังเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แฟนพีเอสวีในสนามต่างร้องเพลง “Always Look on the Bright Side of Life” กันอย่างสนุกสนาน
แต่ฝั่งลิเวอร์พูล? แค่คิดจะยิ้มยังแทบเป็นไปไม่ได้
ทั้งทีมเหมือนตกอยู่ในอุโมงค์มืดที่มองไม่เห็นทางออกเลยแม้แต่น้อย

จังหวะผิดพลาดเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตั้งแต่แฮนด์บอลของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คที่นำไปสู่จุดโทษ ทั้งที่เขาพยายามร้องขอฟาวล์
ไปจนถึงจังหวะสกัดวืดของอิบราฮิมา โกนาเต้ ที่นำไปสู่ประตูที่สามของพีเอสวี

ทีมที่หล่นลงเหว

ในช่วงเวลาเพียงสองเดือน ลิเวอร์พูลแพ้ถึง 9 จาก 12 นัด
สถานะของสลอตที่เคยมั่นคงจนไม่อาจแตะต้องได้ บัดนี้เริ่มสั่นคลอนอย่างหนัก

ความเชื่อใจจากแฟนบอลที่เคยมีให้เขาเริ่มเปลี่ยนเป็นความสงสัย
และตอนนี้ หลังความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายสองเกมติด ความศรัทธานั้นแทบไม่หลงเหลือแล้ว

ตอนเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น แฟนบอลที่ยังอยู่ในสนามแอนฟิลด์ไม่สามารถซ่อนความผิดหวังได้อีกต่อไป เสียงโห่ดังขึ้นทั่วอัฒจันทร์
ผู้เล่นเดินออกจากสนามด้วยสีหน้าหม่นหมอง ปราศจากพลังและความเชื่อมั่น

เคอร์ติส โจนส์ แทบหาคำพูดไม่ออกเมื่อให้สัมภาษณ์หลังเกม จนสุดท้ายเขาพูดประโยคเดียวที่ทุกคนคิดเหมือนกัน…

“เรากำลังมีปัญหาใหญ่ และทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง”

ตำแหน่งของอาร์เน่ สลอตกำลังสั่นคลอน?

สลอตยังคงตอบนักข่าวด้วยภาษาที่ระมัดระวัง
แต่คำถามหนึ่งดังก้องขึ้นทันที:

เขารู้สึกกังวลกับตำแหน่งของตัวเองหรือไม่?

เมื่อมองย้อนกลับไป เขาเพิ่งพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม
คำถามแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
แต่ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้—ความเชื่อใจสามารถสลายหายไปในชั่วข้ามคืน

สลอตตอบเรียบง่ายว่า:

“มันไม่สำคัญว่าจะยุติธรรมไหม ถ้าคุณแพ้มากขนาดนี้ ก็ต้องคาดหวังให้คำถามแบบนี้เกิดขึ้น”

เขายืนยันว่าตนยัง “รู้สึกปลอดภัย” และได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร
แต่ความจริงก็คือ ยิ่งแพ้นานเท่าไร กระแสภายนอกก็ยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น

ทีมที่เปราะบางแบบน่าเป็นห่วง

ปัญหาของลิเวอร์พูลตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติก แต่เป็นเรื่อง “สภาพจิตใจ” และ “ความเป็นทีม” ที่หายไปอย่างสิ้นเชิง
รูปแบบการเล่นไม่มี ทิศทางไม่ชัด และนักเตะแทบทุกคนเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างไม่น่าเชื่อ

บางช่วงเกม ลิเวอร์พูลครองบอลได้ดี
แต่ทุกครั้งที่ถูกกดดันนิดเดียว เกมรับก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ทันที

แนวรับที่สลอตเคยบอกว่า “น่าขัน” ในตอนนี้ก็ยังน่าขันเหมือนเดิม
ตั้งแต่ต้นปี 2025 ทีมเก็บคลีนชีตได้เพียง 13 จาก 49 เกม—สถิติที่รับไม่ได้สำหรับทีมระดับลิเวอร์พูล

โกนาเต้คือภาพสะท้อนที่ดีที่สุดของปัญหานี้
เขาเล่นดีได้ แต่เมื่อผิดพลาด ก็ผิดพลาดจนทีมเสียประตูทันที

ที่น่ากังวลกว่านั้นคือ ทุกครั้งที่เสียประตู นักเตะดูเหมือนหมดใจตั้งแต่นาทีแรก
ระหว่างประตูที่สามกับสี่ของพีเอสวี แทบไม่เห็นการไล่บอลหรือความมุ่งมั่นใดๆ เลย

เส้นชัยที่ไม่รู้จะไปถึงเมื่อไหร่

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ…
ตอนนี้แทบไม่มีใครเห็นเลยว่า “ชัยชนะนัดต่อไปของลิเวอร์พูล” จะมาจากไหน

ไฟความหวังที่พอมีในบางนัดก็ดับลงทันทีด้วยความผิดพลาดซ้ำๆ
พวกเขาแพ้ทุกครั้งที่เสียประตูนำก่อน และชนะเฉพาะเกมที่ยิงนำได้ก่อนเท่านั้น

ลิเวอร์พูลไม่ใช่สโมสรที่ปลดผู้จัดการทีมง่ายๆ
แต่หากสถานการณ์ดำเนินต่อไปแบบนี้ สลอตกำลังเดินเข้าใกล้เส้นอันตรายทีละก้าว

ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ และริชาร์ด ฮิวจ์ส อาจต้องเริ่มพูดคุยกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับอนาคตของเขา

สลอตยอมรับว่า:

“ผมต้องทำให้ดีกว่านี้ นี่คือสิ่งเดียวที่ผมโฟกัส”

แต่คำถามใหญ่คือ…

แม้จะเปลี่ยนผู้จัดการทีมตอนนี้—
มันจะช่วยอะไรได้จริงหรือ?
และหากต้องเปลี่ยน… ใครคือคนที่เหมาะสม?

เพียงแค่คำถามเหล่านี้เริ่มโผล่ขึ้นมา ก็เพียงพอแล้วที่จะสะท้อนภาพปัจจุบันของลิเวอร์พูล
ทีมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมหาอำนาจ ตอนนี้กำลังหลงทางอย่างสิ้นเชิง

อ่านด้วย :