โธมัส ทูเคิ่ล (Thomas Tuchel) ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ จำใจต้องปรับเปลี่ยนรายชื่อผู้เล่นแบบกะทันหัน หลัง รีซ เจมส์ (Reece James) แบ็กขวาตัวเก่งจากเชลซีได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถลงเล่นในเกมทีมชาติรอบนี้ได้ ส่งผลให้ ทูเคิ่ลตัดสินใจเรียกหน้าใหม่อย่าง นิโค โอ’รีลลีย์ (Nico O’Reilly) จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ามาเสริมทัพแทน
การเปลี่ยนแปลงจำเป็นของทูเคิ่ล
ก่อนหน้านี้ ทูเคิ่ลตั้งใจจะคงโครงสร้างทีมชุดเดิมจากการเก็บตัวครั้งล่าสุด เพื่อเตรียมลงสนามพบกับ เวลส์ และ ลัตเวีย ซึ่งเกมหลังเป็นแมตช์สำคัญในศึก คัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 โซนยุโรป แต่การบาดเจ็บของรีซ เจมส์ ทำให้เขาต้องหาทางเลือกใหม่โดยด่วน
เดิมทีรายชื่อผู้เล่นที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่มีชื่อของแข้งดังอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham), ฟิล โฟเด้น (Phil Foden), แจ็ค กรีลิช (Jack Grealish) และ อดัม วอร์ตัน (Adam Wharton) โดยทูเคิ่ลเลือกจะให้โอกาสผู้เล่นหน้าใหม่และดาวรุ่งที่ฟอร์มดีในระดับสโมสร
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับรายงานการถอนตัวของรีซ เจมส์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาจึงตัดสินใจมอบโอกาสทองให้กับดาวรุ่งพุ่งแรงจากแมนฯ ซิตี้
ดาวรุ่งใหม่แห่งทัพสิงโตคำราม
ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกแถลงยืนยันว่า นิโค โอ’รีลลีย์ ได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้จนได้รับคำชมจากทั่ววงการฟุตบอลอังกฤษ
โอ’รีลลีย์ เดิมเป็นกองกลางจากอะคาเดมีของซิตี้ แต่ภายใต้การดูแลของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) เขาถูกปรับตำแหน่งไปเล่นเป็น แบ็กซ้าย และสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยผลงานที่โดดเด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ
ดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปีรายนี้ ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 9 นัดในทุกรายการ และสิ่งที่น่าทึ่งคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่เคยแพ้เลยในทุกเกมที่เขาเป็นตัวจริง นับเป็นสถิติที่สะท้อนถึงความมั่นใจและความสม่ำเสมอของเจ้าหนูรายนี้
ฟอร์มอันร้อนแรงทำให้โอ’รีลลีย์ได้รับรางวัลตอบแทนเป็น สัญญาฉบับใหม่กับสโมสรจนถึงปี 2030 พร้อมก้าวขึ้นมาสู่ทีมชาติชุดใหญ่ต่อจากทีมชาติอังกฤษชุด U-21 ของ ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley)
โอ’รีลลีย์ – เส้นทางจากเยาวชนสู่ทีมชาติชุดใหญ่
นิโค โอ’รีลลีย์ เคยเป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่ระดับ U-15, U-17, U-19 และล่าสุด U-21 ก่อนจะก้าวสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในที่สุด การเรียกตัวครั้งนี้ทำให้เขาได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมทีมแมนฯ ซิตี้อย่าง เจมส์ แทรฟฟอร์ด (James Trafford) และ จอห์น สโตนส์ (John Stones)
การเข้ามาของโอ’รีลลีย์ไม่เพียงเติมเต็มตำแหน่งที่ขาดหายจากรีซ เจมส์เท่านั้น แต่ยังเพิ่มมิติใหม่ในแนวรับอังกฤษด้วยสไตล์การเล่นที่คล่องตัวและการจ่ายบอลแม่นยำ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เข้ากับแนวทางฟุตบอลของทูเคิ่ลอย่างสมบูรณ์แบบ
รายชื่อทีมชาติอังกฤษชุดล่าสุด
ผู้รักษาประตู: ดีน เฮนเดอร์สัน, จอร์แดน พิคฟอร์ด, เจมส์ แทรฟฟอร์ด
กองหลัง: แดน เบิร์น, มาร์ก เกฮี, นิโค โอ’รีลลีย์, เอซรี คอนซา, ลูอิส-สเกลลี, จาร์เรลล์ ควานซาห์, สเปนซ์, จอห์น สโตนส์
กองกลาง: เอลเลียต แอนเดอร์สัน, มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เดแคลน ไรซ์, แซม โรเจอร์ส
กองหน้า: จาร็อด โบเวน, เอเบเรชี่ เอเซ่, แอนโธนี กอร์ดอน, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บูกาโย่ ซาก้า, ออลลี่ วัตกินส์
การเรียกตัว นิโค โอ’รีลลีย์ เข้าทีมชาติอังกฤษครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของดาวรุ่งผู้มากพรสวรรค์ และสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางใหม่ของทูเคิ่ล ที่ต้องการผสมผสานพลังหนุ่มเข้ากับประสบการณ์ของแข้งรุ่นใหญ่ เพื่อเตรียมทีมสู่เป้าหมายใหญ่ที่สุด — ฟุตบอลโลก 2026
แฟนบอลอังกฤษต่างจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า ดาวรุ่งจากแมนฯ ซิตี้รายนี้จะสามารถแจ้งเกิดในเวทีทีมชาติได้หรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ นี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตของ นิโค โอ’รีลลีย์