นาโปลี สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2024/25 เมื่อสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอิตาลีได้อีกครั้งภายใต้การคุมทัพของอันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือผู้ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดและแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ แม้จะต้องเจอกับบททดสอบอันแสนสาหัสตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่คอนเต้ก็สามารถพาทีมฝ่าฟันทุกอุปสรรค จนจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งแชมป์ที่คู่ควร
ชัยชนะเหนือกายารี่ ปิดฉากฤดูกาลแห่งความท้าทาย
นาโปลีปิดฤดูกาลด้วยชัยชนะ 2-0 เหนือกายารี่ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล แม้อินเตอร์ มิลาน จะเก็บสามแต้มได้เช่นกันจากการชนะโคโม่ 2-0 แต่ก็ไม่สามารถแซงนาโปลีได้ ทำให้ทีมจากเมืองเนเปิลส์คว้าแชมป์ด้วยคะแนนนำห่างเพียง 1 แต้ม ความสำเร็จครั้งนี้จุดประกายความหวังและความปลื้มปีติอีกครั้งในเมืองที่ยังคงหลงใหลในฟุตบอล
คอนเต้จารึกชื่อคว้าแชมป์กับสามสโมสรใหญ่
ด้วยถ้วยสคูเด็ตโต้ล่าสุดนี้ คอนเต้กลายเป็นกุนซือที่คว้าแชมป์เซเรีย อาได้กับสามสโมสรแตกต่างกัน ได้แก่ ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน และนาโปลี ทำให้เขาเทียบเท่ากับตำนานกุนซืออย่างฟาบิโอ คาเปลโล ความสำเร็จครั้งนี้ยังมีความหมายทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งสำหรับคอนเต้ เพราะเป็นแชมป์ที่มาจากสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตการคุมทีมของเขา
เบื้องหลังความกดดันมหาศาลในเนเปิลส์
แม้จะเป็นการคว้าแชมป์ แต่เส้นทางของนาโปลีในฤดูกาลนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ คอนเต้เปิดเผยว่าเขารู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมากในเกมสุดท้าย “ตอนมาถึงสนาม ผมแทบไม่สามารถเดินเข้าไปได้ มีผู้คนมากมายรออยู่ ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำให้พวกเขาผิดหวัง” เขากล่าวผ่าน Football Italia
ทีมที่กลับมาแข็งแกร่งหลังจากฤดูกาลที่ล้มเหลว
จากการจบอันดับที่ 10 เมื่อฤดูกาลก่อน และไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรป ทำให้นาโปลีมีสมาธิเต็มที่กับเกมในประเทศ ต่างจากอินเตอร์ที่ต้องแบ่งกำลังระหว่างลีกกับแชมเปียนส์ลีก คอนเต้ใช้โอกาสนี้สร้างระบบทีมใหม่ โดยโน้มน้าวให้ผู้เล่นตัวหลักอย่างวิคเตอร์ โอซิมเฮน และควิชา ควารัตสเคเลีย อยู่กับทีมต่อและสู้เพื่อเป้าหมายใหม่
จุดเริ่มต้นจากความไม่แน่นอน
นาโปลีเริ่มต้นฤดูกาลอย่างยากลำบาก หลังเสมอกับโมเดน่าในโกปปา อิตาเลีย และแพ้เวโรน่าอย่างหมดรูปในเกมลีกช่วงแรก สื่อและแฟนบอลเริ่มตั้งคำถามถึงศักยภาพของคอนเต้ แต่เขากลับใช้จังหวะเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างทีมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เกมสุดท้ายที่คอนเต้ต้องชมจากบนอัฒจันทร์
ในนัดชี้ชะตากับกายารี่ คอนเต้ถูกแบนจากเกมเนื่องจากโดนใบแดงในเกมก่อนหน้านี้กับปาร์ม่า ทำให้เขาต้องดูเกมจากบนอัฒจันทร์ แต่ทันทีที่เสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น เขาก็รีบลงมาร่วมฉลองกับนักเตะและสตาฟฟ์อย่างอบอุ่น โดยเฉพาะกับโรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้าคู่ใจที่เคยร่วมงานกันมาก่อนในหลายสโมสร
นาโปลีไม่ใช่ทีมที่มีดีเอ็นเอแชมป์ แต่หัวใจของทีมคือความมุ่งมั่น
คอนเต้ยอมรับว่า การนำทีมอย่างนาโปลีคว้าแชมป์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย “นาโปลีไม่ใช่ทีมที่เริ่มฤดูกาลด้วยสถานะทีมลุ้นแชมป์ แต่พวกเขาทำได้ และทำได้ถึงสองครั้งในสามปี นั่นบ่งบอกว่ามีบางอย่างที่พิเศษที่นี่” เขากล่าว
ความฝันที่เป็นจริงของชาวเนเปิลส์
ชัยชนะครั้งนี้มีความหมายลึกซึ้งกับชาวเมืองเนเปิลส์ “กว่า 30 ปีที่แล้ว มาราโดนาเคยพาทีมคว้าแชมป์ และวันนี้เป็นคิวของโจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ ที่ชูถ้วยในฐานะกัปตัน มันคือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์อีกครั้ง” คอนเต้กล่าวด้วยความภูมิใจ
อนาคตของคอนเต้ยังไม่แน่นอน
แม้จะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่และอบอุ่นถึงขั้นที่ตำนานอย่างชีโร่ เฟอร์ราร่า นำเค้กมาเซอร์ไพรส์คอนเต้ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบแน่ชัดว่าเขาจะอยู่กับทีมหรือไม่ในฤดูกาลหน้า “เรากำลังสนุกกับช่วงเวลานี้ ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธาน เราใช้ฤดูกาลนี้ในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เราทั้งคู่คือผู้ชนะ แม้จะมีวิธีต่างกัน แต่เป้าหมายเหมือนกัน” คอนเต้กล่าวทิ้งท้าย
อ่านด้วย :