เสียงวิจารณ์เริ่มดังขึ้นต่อผลงานของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มิดฟิลด์ตัวรุกดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล หลังย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาลในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ กุนซือทีมชาติเยอรมนี ออกโรงปกป้องลูกทีมคนสำคัญ พร้อมยืนยันว่าเวิร์ตซ์ไม่ได้ควรตกเป็นเป้าความผิดใด ๆ
การปรับตัวในพรีเมียร์ลีกที่ยังไม่สมบูรณ์
เวิร์ตซ์ วัย 22 ปี เพิ่งย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีมลิเวอร์พูลในตลาดซื้อขายซัมเมอร์ปี 2025 ด้วยค่าตัวสูงถึง 106.8 ล้านปอนด์ หรือราว 2.36 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร “หงส์แดง”
อย่างไรก็ตาม ช่วงเปิดฤดูกาล 2025/26 เจ้าตัวยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ตามที่แฟนบอลคาดหวัง เขายัง ไม่มีทั้งประตูและแอสซิสต์ จากการลงเล่น 7 นัดในศึก พรีเมียร์ลีก แม้จะมีส่วนร่วมในเกมรุกอยู่บ่อยครั้ง
จากข้อมูลของ Opta เวิร์ตซ์สร้างโอกาสยิงให้เพื่อนร่วมทีมไปแล้ว 11 ครั้ง และมีการสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่งถึง 26 ครั้ง พร้อมยิงตรงกรอบ 4 ครั้ง ซึ่งถือว่าไม่น้อยสำหรับผู้เล่นที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตในลีกใหม่ แต่โชคร้ายที่ยังไม่มีผลลัพธ์เป็นสกอร์หรือแอสซิสต์
นาเกิลส์มันน์ยืนยัน “เวิร์ตซ์ยังเป็นนักเตะคนสำคัญ”
หลังเกมที่ทีมชาติเยอรมนีถล่ม ลักเซมเบิร์ก 4-0 ในศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 นาเกิลส์มันน์ได้กล่าวถึงลูกทีมคนนี้อย่างชัดเจนว่า เวิร์ตซ์ยังคงเป็นส่วนสำคัญของแผนการเล่นทีมชาติ แม้สถิติส่วนตัวในระดับสโมสรจะยังไม่โดดเด่นก็ตาม
“เขาเล่นได้ดีมาก เคลื่อนไหวเยอะ และพยายามอย่างเต็มที่” นาเกิลส์มันน์กล่าว
“แม้จะยังไม่ได้ยิงประตู แต่ฟลอเรียนคือหนึ่งในผู้เล่นที่สร้างโอกาสมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ มันไม่ใช่ความผิดของเขาที่เพื่อนร่วมทีมไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นให้เป็นประตูได้”
กุนซือวัย 38 ปีรายนี้ยังเสริมอีกว่า ตัวเลขในสถิติไม่สามารถสะท้อนภาพรวมของผลงานในสนามได้ทั้งหมด
“บางครั้งสถิติก็ทำให้ทุกอย่างดูแย่ ทั้งที่ในความจริงแล้วนักเตะอาจเล่นได้ดี เพียงแต่ทีมไม่สามารถปิดเกมได้เท่านั้นเอง”
ความกดดันจากค่าตัวมหาศาล
แน่นอนว่าความคาดหวังสูงที่มาพร้อมค่าตัวเกิน 100 ล้านปอนด์ ทำให้เวิร์ตซ์ต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลจากแฟนบอลและสื่ออังกฤษ แต่สำหรับนาเกิลส์มันน์ เขามองว่าการปรับตัวในลีกที่รวดเร็วและเข้มข้นอย่างพรีเมียร์ลีกต้องใช้เวลา
“เวิร์ตซ์รู้ดีถึงศักยภาพของตัวเองและเข้าใจว่านี่คือธรรมชาติของฟุตบอล” นาเกิลส์มันน์กล่าวต่อ
“เขาแค่ต้องทำงานหนักและอดทน เมื่อวันใดที่เขายิงได้สามประตูติดต่อกัน ทุกคนจะหันกลับมาชื่นชมและบอกว่าเขาคือการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูล”
ลิเวอร์พูลภายใต้การนำของอาร์เน่ สลอตยังไม่นิ่ง
ไม่เพียงแต่เวิร์ตซ์เท่านั้นที่ตกเป็นเป้าเสียงวิจารณ์ แต่ฟอร์มโดยรวมของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สลอต ก็ยังไม่สม่ำเสมอเท่าที่แฟนบอลคาดหวังไว้ หลายเกมทีมมีโอกาสมากแต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ โดยแม้แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังถูกตั้งคำถามเรื่องประสิทธิภาพในแดนหน้า
ด้วยเหตุนี้ เวิร์ตซ์จึงต้องใช้ช่วงพักเบรกทีมชาติครั้งนี้ในการเรียกความมั่นใจและปรับจังหวะการเล่นของตนเอง เพื่อกลับมาช่วยทีมหลังจบภารกิจทีมชาติ
บททดสอบสำคัญรออยู่ข้างหน้า
หลังจบโปรแกรมทีมชาติ เวิร์ตซ์จะกลับมาสวมเสื้อ “หงส์แดง” อีกครั้งในเกมใหญ่ที่รออยู่ — ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันที่ 19 ตุลาคม 2025 ซึ่งจะเป็นโอกาสทองสำหรับมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนีรายนี้ในการพิสูจน์คุณค่าของตนเองต่อหน้าสาวกเดอะค็อปทั่วโลก
หากเขาสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ในแมตช์นี้ เสียงวิจารณ์ทั้งหมดอาจกลายเป็นเพียงอดีต และเวิร์ตซ์จะได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่กับลิเวอร์พูลอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ตั้งแต่แรก
แม้ผลงานในสนามยังไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ยังคงได้รับความเชื่อมั่นเต็มร้อยจาก ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ทั้งในระดับทีมชาติและส่วนตัว กุนซืออินทรีเหล็กเชื่อว่า ดาวรุ่งวัย 22 ปีรายนี้จะสามารถพิสูจน์คุณค่าได้ในเวลาไม่นาน — เพราะ “พรสวรรค์และทัศนคติของเขา” คือสิ่งที่แท้จริงที่ลิเวอร์พูลต้องการ
อ่านด้วย :
